เดวิด มอยส์และโชเซ่ มูรินโญ่อาจจะไม่ได้ยอมรับกับผลการแข่งขันนี้ แต่อย่างไรก็ดีนี่คือแต้มแห่งความสุข
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำประตูไม่ได้และจบด้วยผลเสมอเป็นครั้งแรกสำหรับการแข่งขัน 119 นัด ทำให้มั่นใจได้ว่าเดวิด มอยส์ไม่เสียแต้มในบ้านของตัวเองเป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีม ขณะเดียวกันมูรินโญ่ยังคงทำสถิติยอดเยี่ยมสำหรับทีมของเขา
เมื่อเขาสองคนพบกันอีกครั้งที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ในเดือนมกราคมการเดิมพันจะสูงขึ้น แต่ทั้งหมดที่เราเห็นมันถูกดึงออกมาจากการเผชิญหน้าในคืนนี้ที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องยากที่จะเลือกเชียร์ทีมใดทีมหนึ่งสำหรับนัดที่ท้าทายแบบนี้
มอยส์ได้รับการสนุบสนุนมากขึ้นในการส่งเวย์น รูนี่ย์ลงสนาม แม้จะอยู่ในช่วงที่เป็นเหยื่อความสนใจของมูรินโญ่ก็ตาม เราจะเห็นความมุ่งมั่นของเขาที่ออกมาจากคุณภาพของตัวเขาเอง
ที่สำคัญรูนี่ย์ ได้รับกำลังใจจากแฟนบอล ทำให้รู้ว่าแฟนบอลเหล่านั้นอยากให้เขาอยู่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เมื่อเขาวิ่งไล่รามิเรสที่มุมธง แล้วส่งบอลให้กับโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เสียงดังกึกก้องจากแฟนบอลดังราวกับเขาทำประตูได้ ยูไนเต็ดมีโอกาสมากขึ้นและได้โอกาสจากลูกของแดนนี่ เวลเบ็คซึ่งเป็นโอกาสทองที่ดีที่สุดของยูไนเต็ด แต่เราจะเห็นได้ว่าเชลซีทำการบ้านมาอย่างดีและเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง
มีการปรบมือ 1 นาทีก่อนเตะเพื่อให้เกียรติแก่แจ็ค ครอมป์ตันและไบรอัน กรีนฮอฟฟ์ ที่ล่วงลับในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
ในหมู่ฝูงชนที่เข้ามาดูการประลองระหว่างสองทีมด้านบนของตาราง เราจะเห็นรอย ฮอดจ์สันผู้จัดการทีมชาติอังกฤษและมานูเอล เปเยกรินี่ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มาชมการแข่งขันเพราะในเดือนถัดไปพลพรรคปิศาจจะโคจรพบกับเรือใบสีฟ้า
เป็นที่คาดการณ์กันว่าเดวิด มอยส์จะให้รูนี่ย์ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะเชลซี 4-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อวันที่ 4 เดือนพฤษภาคม แม้จะเห็นได้ชัดว่าเชลซีรอให้เกมนี้จบลงก่อน ก่อนที่จะยื่นข้อเสนอที่สามให้กับแมนฯ ยูไนเต็ดในการล่าลายเซ็นเวย์น รูนี่ย์
" ความกลัวของปฏิกิริยาแฟนบอลปิศาจแดงหายไปในทันที เมื่อชื่อของเขาปรากฏใน 11 ผู้เล่นตัวจริง เสียงร้องไชโยดังไปทั่วพร้อมๆกับเรียกชื่อ "รูนี่ย์ รูนี่ย!!" ในขณะที่นักเตะคนนี้วอร์มอยู่ข้างสนาม "
"ปิศาจแดง" ครองบอลได้มากในช่วงแรก แต่ต้องรอจนถึงนาทีที่ 23 ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มซัดประตู เมื่อไมเคิล คาร์ริคตัดบอลจากรามิเรส และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ก็ยิงหลุดข้างตาข่ายไป
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ไม่สามารถไปให้สูงพอที่จะได้โอกาสหรือทิศทางที่จะทำประตูเมื่อปาทริซ เอฟร่าขึ้นโหม่ง ขณะที่ยูไนเต็ดพยายามที่จะสร้างโมเมนตัมการโจมตี และรูนี่ย์ก็ได้รับบอลจากทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก เข้ามือปิเตอร์ เช็ก
แมนฯ ยูไนเต็ดรีบจัดการเชลซีกับการเข้าปะทะโดยอันโตนิโอ วาเลนเซีย หลังจากได้รับการป่วนจากออสการ์ จุดนี้ทำให้มาร์ติน แอตกินสันต้องตักเตือนเขา แต่แล้วเควิน เดอ บรอยน์ก็ขึ้นมาเป็นครั้งแรกและทำฟาวล์ฟาน เพอร์ซี่ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บที่ปากเสียเอง มีเลือดไหลออกมาจากการโดนแขนของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่
มูรินโญ่เริ่มทนไม่ไหวจากการที่วาเลนเซียไม่ได้รับโทษใดๆและเดอ บรอยน์ก็ทำให้เขาไม่ได้ เขาจึงไปโชว์แอคติ้งกับไมค์ ดีนซะอย่างงั้น
ทั้งสองทีมแสดงให้เห็นความเคารพซึ่งกันและกันและระมัดระวังมากในช่วงครึ่งแรก แต่ยูไนเต็ดสามารถขึ้นเกมได้ในช่วงครึ่งหลัง แดนนี่ เวลเบ็คเกือบทำสำเร็จ ถือว่าเขามีส่วนร่วมอย่างมากในการทำหน้าที่เกมรุก
เวลเบ็คเล่นกับปาทริซ เอฟร่าได้ดี แต่ปิศาจแดงกลับถูกบล็อคในขณะที่เข้ามาในพื้นที่ของเชลซี เขากดบอลในพื้นที่กว้างและก็เสียโอกาสไปเพราะเขากดสูงเหลือเกิน นั่นถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเกม
รูนี่ย์ได้ขีดเส้นใต้ความเชื่อมั่นของเขาจากการปั่นบอล เพื่อท้าทายความสามารถของแกรี่ เคฮิลล์ในระยะ 25 หลา แต่ปิเตอร์ เช็กรับสบาย
วาเลนเซียทำงานหนักมาก ร้อนบ้างหนาวบ้าง สุดท้ายแล้วมอยส์จึงตัดสินใจเปลี่ยนเอาเขาออกและส่งแอชลี่ย์ ยังที่เพิ่งหายเจ็บลงสนามมาแทน
สุดท้ายแล้วเกมจบที่ผลเสมอ เรามองออกว่าโชเซ่ มูรินโญ่มาเพื่อ 1 แต้มและหวังล่อให้พลพรรคปิศาจไปพ่ายที่แสตมฟอร์ด บริดจ์แน่นอน แต่ถึงอย่างไรแฟนบอลไม่น้อยก็พอใจกับฟอร์มการเล่นของเวย์น รูนี่ย์ที่ตอนนี้ได้รับคำชื่นชมจากเหล่านักบอลในวงการมากมาย
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47